6 วิธีดูแลปอมเมอเรเนียนให้มีผิวหนังและเส้นขนแข็งแรง
หากพูดถึง สุนัขสายพันธุ์เล็กที่มีหน้าตาน่ารัก จมูกแหลม มีขนฟูฟ่องสีน้ำตาล หางเป็นพวง ตาแป๋วเป็นประกาย รักเจ้าของ ขี้ประจบ ใคร ๆ ก็คงต้องนึกถึงน้องหมาสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนกันอย่างแน่นอน เพราะเจ้าหมาปอมมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ ขนฟูที่สวยงาม ที่ไม่ว่าใครได้เห็นต่างก็ต้องขอจับขออุ้มเพราะอยากชื่นชนความน่ารักของน้องหมาปอมแบบใกล้ชิด ... แต่ถึงอย่างไรน้องหมาปอมก็ยังเป็นน้องหมาที่พบมีปัญหาเรื่องสุขภาพผิวหนังและเส้นขนได้บ่อย เพราะน้องหมาปอมมีลักษณะของผิวหนังที่บอบบาง ขนร่วงง่าย รวมถึงยังพบโรคผิวหนังสีดำ (Black skin disease) หรือโรคขนร่วงโดยไม่ทราบสาเหตุ (Alopecia X) ที่ทำให้น้องหมาปอมหมดความน่ารักลงไปได้
เทคนิคการเลี้ยงการดูแล วันนี้ ปังปอนด์ก็เลยจะชวนเพื่อน ๆ มาเรียนรู้วิธีการดูแลผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาปอมให้แข็งแรง และสวยเงางามอยู่เสมอกันค่ะ จะมีเคล็ดลับการดูแลผิวหนังและเส้นขนให้น้องหมาปอมอย่างไรบ้างกันบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ
รู้จักผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาปอม
ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้วิธีดูแลขนของน้องหมาปอม เรามาทำความรู้จักลักษณะผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาปอมเมอเรเนียนกันก่อนนะคะ ... น้องหมาสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เป็นน้องหมาขนาดเล็กที่ลักษณะผิวหนังที่บอบบางและค่อนข้างแพ้ง่าย มีขนฟูแน่นลักษณะเป็น 2 ชั้น คือ ขนชั้นใน (UNDERCOAT) ที่จะมีความอ่อนนุ่ม เกาะกันเป็นแผงหนาและแน่น มีความยาวพอประมาณ โดยขนชั้นในที่หนาแน่นจะช่วยพยุงขนชั้นนอกให้ฟู ไม่ลู่ เหยียดตรง ส่วนขนชั้นนอก (OUTTERCOAT) จะมีลักษณะยาว เหยียดตรง เส้นใหญ่เป็นประกาย หยาบกว่า และจะไม่เกาะกันเป็นแผงเหมือนกับขนชั้นใน โดยส่วนมากผู้เลี้ยงน้องหมาปอมมักจะพาน้องหมาไปตัดแต่งทรงขนให้ดูสวยงามอยู่เสมอ ซึ่งทรงขนของน้องหมาปอมจะมีหลากหลายรูปแบบที่จะเพิ่มความน่ารักน่าเอ็นดูให้กับน้องหมาปอมได้ โดยเพื่อน ๆ สามารถเข้าไปติดตามทรงขนของน้องหมาปอมได้ที่บทความ ทรงขนฮิตๆ ของเจ้าปอมเมอเรเนีย
สำหรับการผลัดขน น้องหมาปอมเพศผู้จะมีการผลัดขนอย่างน้องปีละ 1 ครั้ง ส่วนเพศเมียจะผลัดขนประมาณ 2 ครั้งต่อปี โดยจะกินเวลาในการผลัดขนนานประมาณ 2 อาทิตย์ แต่ทั้งนี้ในน้องหมาปอมบางตัวก็อาจจะมีอาการขนร่วง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ น้องหมามีภาวะเครียดหรือป่วย , ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ฮอร์โมนคอร์ดิซอลสูงเกินไป ขาดฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล , น้องหมาเกิดการแพ้ เช่น แพ้อาหาร แพ้น้ำลายเห็บหมัด แพ้แชมพู แพ้สิ่งที่สัมผัส , การติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือไรขี้เรื้อน , น้องหมาขาดสารอาหาร และความผิดปกติทางพันธุกรรมที่น้องหมาถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งผู้เลี้ยงเองก็ต้องคอยสังเกต และดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ
โดยวิธีการดูแลผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาปอมให้มีสุขภาพดี น่ารักน่ากอดก็มีวิธีง่าย ๆ 6 ข้อ ดังนี้ค่ะ
ให้อาหารที่มีส่วนผสมบำรุงขน
น้องหมาปอมจะมีสุขภาพผิวหนังและขนที่แข็งแรงและสวยงามต้องเริ่มจากภายใน ... อาหารเป็นตัวแปรสำคัญที่จะส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาปอมในระยะยาว ฉะนั้น ผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจและพิถีพิถันในเลือกอาหารที่มีคุณภาพสูง และมีประโยชน์ให้กับน้องหมา โดยอาจจะเลือกอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นขนเช่น อาหารที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า 3,6 DHA ที่จะช่วยบำรุงผิวหนังชุ่มชื้น ทำให้ขนเงางามนุ่มสลวยมากยิ่งขึ้น อโวคาโด ออยล์ ที่ช่วยลดการหลุดร่วงของขน และลดการผลัดขนในน้องหมา ลดอาการคันและยังช่วยให้ผิวหนังที่เป็นแผลหายเร็ว เบต้าแคโรทีนช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังของน้องหมาแข็งแรง สำหรับราคาอาหารน้องหมาเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับน้องหมาปอมที่ต้องการความสวยงามของขนนะคะ
นอกจากนี้แล้ว ผู้เลี้ยงก็จำเป็นที่จะต้อง คำนวณปริมาณอาหารที่เหมาะสมในแต่ละวันให้กับน้องหมาเพราะหากน้องหมาได้รับปริมาณสารอาหารที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้น้องหมามีภาวะน้ำหนักเกินได้ หรือถ้าหากน้องหมาขาดสารอาหารที่จำเป็นไป ก็อาจจะทำให้สุขภาพน้องหมาย่ำแย่ได้ โดยอาการเริ่มต้นที่เห็นได้ชัดของน้องหมาที่ขาดสารอาหารคือ สุขภาพเส้นขนของน้องหมาจะขาดความชุ่มชื้น หยาบ หลุดร่วงง่าย และอาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ ตามมา ซึ่งไม่ดีกับน้องหมาปอมอย่างแน่นอนค่ะ
เลี้ยงน้องหมาในอุณหภูมิที่พอเหมาะ
เพื่อน ๆ รู้หรือไม่คะว่า อุณหภูมิ ก็มีส่วนสำคัญที่ส่งผลทำให้น้องหมาปอมมีปัญหาเรื่องการผลัดขน ขนร่วงได้เช่นกัน โดยในน้องหมาปอมบางตัวที่ถูกเลี้ยงในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีความร้อนจัด จะส่งผลทำให้น้องหมาขนร่วง ผลัดขนออกมาในจำนวนมากและยาวนานกว่าปกติ ซึ่งมักทำให้ผู้เลี้ยงหลาย ๆ คน เข้าใจผิดว่าน้องหมาของตัวเองกำลังป่วยอยู่ แต่จริง ๆ แล้วการที่น้องหมาปอมผลัดขน หรือขนร่วงออกมานั้น เป็นกลไกลการผลัดขนทางธรรมชาติที่ระบบร่างกายของน้องหมาสร้างความสมดุลโดยการผลัดขนทิ้งเพื่อให้ขนบางลง ทำให้การระบายความร้อนบริเวณผิวหนังทำได้ดีขึ้น ซึ่งหลังจากที่ขนน้องหมาหลุดร่วงออกไปก็จะมีขนรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนขนเก่า ซึ่งไม่ถือเป็นความผิดปกติ เพียงแต่จะทำให้น้องหมามีขนที่ไม่สวยหรือไม่สม่ำเสมอค่ะ
ฉะนั้น ทางที่ดีเพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมามีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังและเส้นขนร่วง หรือผลัดขนเป็นเวลานาน เพื่อน ๆ ก็อาจจะต้องเช็คดูพื้นที่บริเวณที่เลี้ยงน้องหมาดูว่า มีอุณหภูมิที่ ร้อนเกินไปหรือมีความชื้นสูงเกินไปหรือไม่ หากเพื่อน ๆ เลี้ยงน้องหมาใกล้ ๆ กับพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงหรือบริเวณที่มีความชื้นสูงเกินไป เช่น ใกล้กับห้องน้ำ สระน้ำ ก็อาจจะย้ายน้องหมามาอยู่ในที่ร่มและมีลมโกรกถ่ายเทสะดวกแทน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้องหมาขนร่วงหรือผลัดขนได้ค่ะ
อาบน้ำให้พอดี
ผู้เลี้ยงน้องหมาหลาย ๆ คนมักมีความเชื่อว่า การอาบน้ำให้น้องหมาบ่อย ๆ จะช่วยทำให้น้องหมาปอมมีผิวหนังและขนสะอาดสุขภาพดี แต่จริง ๆ แล้วเพื่อน ๆ รู้ไหมคะว่า การอาบน้ำให้น้องหมาบ่อยเกินไปนั้นถือเป็นการทำร้ายผิวหนังและขนของน้องหมาโดยไม่รู้ตัว เพราะการอาบน้ำบ่อย ๆ จะเป็นการทำลายไขมันที่ร่างกายน้องหมาผลิตออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน ทำให้ผิวหนังและเส้นขนหยาบ แห้ง ขาดความเงางาม ก่อให้เกิดอาการคันในน้องหมาบางตัว และอาจทำให้น้องหมาเป็นโรคผิวหนังอักเสบได้ ซึ่งถ้าหากมีอาการรุนแรงผิวหนังก็จะสามารถติดเชื้อและเป็นโรคผิวหนังต่าง ๆ ตามมาได้
ดังนั้น ผู้เลี้ยงจึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้น้องหมาบ่อย ๆ โดยเฉพาะกับในลูกสุนัขที่อายุยังไม่ถึง 2½ เดือน ยิ่งไม่ควรจับมาอาบน้ำเพราะร่างกายของน้องหมายังอ่อนแอ ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคที่มากพอจึงอาจทำให้น้องหมาไม่สบายได้ ส่วนสำหรับน้องหมาปอมโตเต็มวัย แนะนำว่าให้อาบน้ำให้ 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง โดยเลือกใช้แชมพูและคอนดิชันเนอร์สูตรอ่อนโยน หรือสูตรผิวบอบบางที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนังของน้องหมา และทุกครั้งที่อาบน้ำให้น้องหมาเสร็จ ผู้เลี้ยงก็จำเป็นที่จะต้องเป่าขนของน้องหมาปอมให้แห้งสนิททุกซอกทุกมุมเพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้น เพราะน้องหมาปอมมีขน 2 ชั้น หากขนน้องหมาไม่แห้งสนิท ขนของน้อหมาก็จะเกิดความอับชื้นและกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค เชื้อรา และลุกลามทำให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ค่ะ
หมั่นแปรงขนทุกวัน
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า น้องหมาปอมเป็นน้องหมาที่มีขน 2 ชั้น มีความหนา ฟู ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลแปรงขนให้เป็นประจำทุกวันเพราะการแปรงขนถือเป็นเคล็ดลับข้อหนึ่งที่จะช่วยให้น้องหมามีขนนุ่มสวยเงางาม โดยการแปรงขนน้องหมาเป็นประจำจะไปช่วยกระตุ้นให้ไขมันใต้ผิวหนังให้ขับไขมันออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น เส้นขนนุ่มและเงางามขึ้น และนอกจากนี้การแปรงขนยังช่วยในการกำจัดขนที่หมดอายุให้หลุดร่วงออกมา และกระตุ้นให้ขนใหม่ของน้องหมาขึ้นเร็วขึ้น รวมถึงยังช่วยขจัด ฝุ่น สิ่งสกปรก เศษกิ่งไม้ต่าง ๆ ที่ติดอยู่บนขนของน้องหมาให้หลุดออกไปจึงทำให้ลดการเกิดปัญหาขนพันกันหรือขนสังกะตังที่มักเกิดขึ้นในน้องหมาที่มีขนยาวปานกลางถึงขนยาวค่ะ
สำหรับแปรงที่เหมาะกับน้องหมาปอมจะเป็นแปรงแบบขนลวด/สลิคเกอร์ (Slicker Brush) ที่ช่วยสางขนบริเวณที่พันกันให้คลายออก และช่วยกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไป และแปรงหมุด (Pin Brush) ที่ช่วยให้ขนไม่พันกันหรือเป็นสังกะตัง ซึ่งตัวขนแปรงที่มีหมุดจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและทำให้ไขมันใต้ผิวหนังของสุนัขออกมาเคลือเส้นขนให้เงางามดูสุขภาพดีค่ะ
การแปรงขนน้องหมาควรทำเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย ๆ ทุก ๆ 2-3 วัน เพื่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนที่ดีของน้องหมา ... หากผู้เลี้ยงหมั่นแปรงขนให้น้องหมาเป็นประจำทุกวัน ขนน้องหมาก็จะสวยเงางามได้โดยไม่ต้องง้อครีมบำรุงเลยล่ะค่ะ
ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลขนที่ได้มาตราฐาน
น้องหมาปอมเป็นน้องหมาสายพันธุ์หนึ่งที่ต้องการความใส่ใจดูแลขนเป็นพิเศษ ผู้เลี้ยงจำนวนมากจึงนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลขนชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำมันเคลือบเส้นขน น้ำหอม โลชั่น สเปรย์บำรุงขน ฯลฯ เพื่อนำมาบำรุงผิวหนังเส้นขนของน้องหมาให้สวยงามอยู่เสมอ ซึ่งผู้เลี้ยงเองก็จำเป็นที่จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตราฐาน ผ่านการรับรอง และปราศจาคสารระคายเคืองต่อผิวหนังของน้องหมา เพราะผลิตภัณฑ์บำรุงขนน้องหมาเหล่านี้จะสัมผัสกับผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาโดยตรง หากผู้เลี้ยงใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังและเส้นขนที่ไม่ได้มาตราฐาน หรือมีสารระคายเคืองต่อผิวหนังน้องหมาผสมอยู่ เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเข้าก็อาจจะทำให้ผิวหนังของน้องหมาอักเสบ ขนหลุดร่วง แทนที่จะมีขนสวยได้ค่ะ
แต่ถึงอย่างไร ก่อนที่ผู้เลี้ยงจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงขนต่าง ๆ ให้กับน้องหมา ผู้เลี้ยงก็ควรพิจาราณาความสำคัญของผลิตภัณฑ์บำรุงขนของน้องหมาว่ามีความจำเป็นต่อน้องหมาของตัวเองหรือไม่ โดยเพื่อน ๆ อาจจะขอคำปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อขอความเห็นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะดีที่สุด เพราะถึงอย่างไรแล้ว น้องหมาปอมแต่ละตัวก็ยังมีลักษณะผิวหนังและเส้นขนที่แตกต่างกัน การดูแลและการบำรุงจึงแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกันค่ะ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
น้องหมาปอมเป็นน้องหมาพันธุ์เล็กจึงไม่ต้องการการออกกำลังกายหนัก ๆ หรือใช้เวลานาน เพียงแค่ผู้เลี้ยงพาน้องหมาไปวิ่งเล่น ฝึกทักษะเพียง 15-20 นาที ก็เพียงพอแล้ว โดยผู้เลี้ยงอาจจะแบ่งเวลาพาน้องหมาไปออกกำลังกายเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าก่อนไปทำงาน และช่วงเย็นหลังเลิกงานเพื่อให้น้องหมาได้ปลอดปล่อยพลังงาน ซึ่งจะส่งผลดีกับระบบหมุนเวียนเลือด หัวใจ กล้ามเนื้อ เซลล์ต่าง ๆ รวมถึงระบบขับถ่ายและช่วยทำให้น้องหมากินอาหารได้มากขึ้นอีกด้วย
การพาน้องหมาปอมไปออกกำลังกายและทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้น้องหมาปอมมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีสุขจิตที่ดี เพราะน้องหมาจะได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้เลี้ยง ส่วนผู้เลี้ยงเองก็จะได้สัมผัสตัวของน้องหมาเพื่อตรวจเช็คผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาไปด้วยว่า มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยผู้เลี้ยงอาจจะใช้มือลูบหรือแหวกขนของน้องหมาดู หากพบเม็ดตุ่ม บาดแผล หรือความผิดปกติ ผู้เลี้ยงก็จะได้หาวิธีรักษาได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงอาจทดสอบภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ของน้องหมาด้วยการใช้มือดึงผิวหนังของน้องหมาขึ้นมาแล้วปล่อย หากพบว่า ผิวหนังของน้องหมาเด้งกลับหรือคืนตัวได้เร็วภายใน 2-3 วินาทีแสดงว่า ร่างกายของน้องหมาปกติไม่ได้มีภาวะขาดน้ำ แต่ถ้าหากผิวหนังคืนตัวช้าแสดงว่า น้องหมากำลังอาจมีภาวะขาดน้ำได้ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ ก็คือ เพียงแค่เพื่อน ๆ ให้น้องหมาดื่มน้ำเพื่อไปเติมเต็มให้ร่างกายเท่านั้นเองค่ะ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ภาวะขาดน้ำในสุนัขได้ที่บทความ ภาวะขาดน้ำในสุนัข กับโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
การดูแลขนให้น้องหมาปอมถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะขนที่สวยเงางามสำหรับน้องหมาปอมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้น้องหมาปอมมีคุณค่า น่ารักน่ากอด และเป็นที่รักของผู้พบเห็น ฉะนั้น เราซึ่งเป็นผู้เลี้ยงจึงจะต้องให้ความสำคัญและอย่าละเลยการดูแลผิวหนังและขนของน้องหมาปอมให้แข็งแรงสวยงามอยู่เสมอกันด้วยนะคะ
บทความโดย doglike.com